วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2552

คู่มือการดำเนินชีวิตสำหรับประชาชน ปี 2541 และ ทฤษฎีใหม่

พระราชดำรัสพระราชทานเมื่อ วันที่ 4 ธันวาคม 2540
ทฤษฎีใหม่



ทฤษฎีใหม่ขั้นที่หนึ่ง
(๑) ถ้าพูดอย่างสรุปที่สุด เป็นวิธีปฏิบัดิของเกษตรกรที่เป็นเจ้าของที่ดินจำนวนน้อย แปลงเล็ก(ประมาณ ๑๕ ไร่)
(๒) หลักสำคัญ! ให้เกษตรกรมีความพอเพียงโดยเลี้ยงตัวเองได้ (self sufficiency) ในระดับชีวิตที่ประหยัดก่อน ทั้งนี้ต้องมีความสามัคคีในท้องถิ่น
(๓) มีภารผลิตข้าวบริโภคพอเพียงประจำปี โดยถือว่าครอบครัวหนึ่ง ทำนา ๕ไร่ จะมีข้าวพอกินตลอดปีข้อนี้เป็นหลักสำคัญของทฤษฏีนี้
(๔) เพื่อการนี้ จะต้องใช้หลัnว่า ต้องมีน้ำ ๑.๐ooลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ฉะนั้น ๕ ไร่ต้องมี ๕๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร แต่ละแปลง (๑๕ ไร่) ทำนา ๕ ไร่ ทำพืชไร่หรือไม้ผล ฯลฯ ๕ ไร่ (= ๑๐ ไร่) จะต้องมี น้ำ ๑๐,๐ooลูกบาศก์เมตรต่อปี จึงไค้ตั้งสูตรคร่าว ๆ ว่า แต่ละแปลงประกอบด้วย นา ๕ ไร่ และพืชไร่และสวน ๕ ไร่ สระน้ำ ๓ ไร่ ลึก ๕ เมตร จุประมาณ ๑๙,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร (๑๙,๒๐๐) ที่ยู่อาศัย และอื่น ๆ ๒ ไร่ รวมทั้งหมด ๑๕ ไร่
(๕) อุปสรรคสำคัญที่สุดคือ อ่างเก็บน้ำ หรือสระที่ได้รับน้ำให้เต็มเพียงปีละหนึ่งครั้ง จะมีการระเหยวันละ๑ เซนติเมตรโดยเฉลี่ย ในวันที่ฝนไม่ตก หมายความว่าในปีหนึ่งถ้านับว่าแห้ง ๓๐๐ วัน ระดับน้ำของสระจะลดลง ๓ เมตร (ในกรณีนี้ ๓/๔ ของ ๑๙,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร น้ำที่ใช้ได้จะเหลือ ๔.๓๕๐ ลูกบาศก์เมตร) จึงจะต้องมีการเติมน้ำเพื่อให้เพียงพอ
(๖) มี ความจำ เป็นที่จ ะมี แหล่งน้ำ เพิ่ม เติมสำหรับโครงการวัดมงคลชัยพัฒนาได้สร้างอ่างเก็บน้ำจุ ๘๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร สำหรับเลี้ยง ๓, ๐๐๐ ไร่ (๗) ลำพังอ่างเก็บน้ำจุ ๘๐๐, ๐๐๐ ลูกบาศก์เมตรจะเลี้ยงได้ ๓๐๐ ไร่ (โครงการวัดมงคลมีพี้นที่ ๓,๐๐๐ ไร่แบ่งเป็น ๒๐๐ แปลง) อ่างนี้จึงเลี้ยงได้ ๔ ไร่ต่อแปลง ลำพังสระในแปลงเลี้ยงได้ ๔๓๕ ไร่ จึงเห็นได้ว่า หมิ่นเหม่มาก (๔.๕ ไร่ + ๔.oo ไร่= ๘.๕ ไร่) ถ้าคำนึงว่า ๘.๕ ไร่นั้น จะทำเกษตรกรรมอย่างสมบูรณ์ได้ อีก ๖.๒๕ ไร่ จะต้องอาศัยเทวดาเลี้ยง แต่ถ้าคำนึงว่า ในระยะที่ไม่มีความจำเป็นที่จะใช้น้ำ หรือมีฝนตก น้ำฝนที่ตกมาจะเก็บไว้ได้ในอ่างและในสระ สำรองไว้สำหรับเมื่อต้องการ อ่างและสระจะทำหน้าที่เฉลี่ยน้ำฝน (regulator) จึงเข้าใจว่าในระบบนี้น้ำจะพอ (๓) ปัญหาใหญ่อีกข้อหนึ่ง คือราคาการลงทุนค่อนข้างสูง เกษตรกรจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก (ทางราชการ ทางมูลนิธิ และ ทางเอกชน) แต่ค่าดำเนินการไม่สิ้นเปลืองสำหรับเกษตรกร

ทฤษฎีใหม่ มูลนิธิชัยพัฒนา วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๗

ทฤษฎีใหม่ขั้นที่สอง เมื่อตั้ง ศูนย์บริการที่วัดมงคลชัยพัฒนาและแปลงตัวอย่างที่ "ทางดิสโก้" สำเร็จแล้ว เกษตรกรก็เริ่มเข้าใจวิธีการ จึงขอให้ดำเนินการในที่ดินของตน เมื่อได้ผลก็ต้องเริ่มขั้นที่สอง คือ ให้เกษตรกรรวมพลังกันในรูปกลุ่มหรือสหกรณ์ร่วมแรงใน
(๑) การผลิต (พันธุ์พืช เตรียมดิน ชลประทาน ฯลฯ)
(๒) การตลาด (ลานตากข้าว ยุ้ง เครี่องสีข้าว การจำหน่ายผลผลิต)
(๓) การเป็นอยู่ (กะปิน้ำปลา อาหาร เครื่อง นุ่งห่ม ฯลฯ)
(๔) สวัสดิการ (สาฉารณสุข เงินกู้)
(๕) การศึกษา (โรงเรียน ทุนการศึกษา)
(๖) สังคมและศาสนาด้วยความร่วมมีอของหน่วยราชการ มูลนิธิ และเอกชน
ทฤษฎีใหม่ มูลนิธิชัยพัฒนา วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘

ทฤษฎีใหม่ขั้นที่สาม ติดต่อร่วมมือกับแหล่งเงิน (ธนาคาร) และกับแหล่งพลังงาน (บริษัทน้ำมัน) ตั้งและบริหารโรงสี
(๒) ตั้งและบริหารร้านสหกรณ์
(๑,๓) ช่วยการลงทุน
(๑,๒) ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต
(๔, ๕, ๖) ทั้งนี้ ทั้งฝ่ายเกษตรกรและฝ่ายฉนาคารกับบริษัทจะได้รับประโยชน์ เกษตรกรขายข้าวในราคาสูง (ไม่ถกกดราคา) ธนาคารกับบริษัทซื้อข้าวบริโภคในราคาต่ำ (ซื้อข้าวเปลือกตรงจากเกษตรกรและมาสีเอง) เกษตรกรซื้อเครื่องอปโภคบริโภคในราคาต่ำ (เป็นร้านสหกรณ์ ราคาขายส่ง)
(๑,๓) ธนาคารกับบริษัท จะสามารถกระจาย บุคลากร
ทฤษฎีใหม่ มูลนิธิชัยพัฒนา วันที่ ๑๓ กมภาพันธ์ ๒๕๓๘

ไม่มีความคิดเห็น: